กาวยาแนว นกอินทรี การ์ด ป้องกันเชื้อรา

กาวยาแนวอินทรี การ์ด

กาวยาแนว ป้องกันราดำ ขนาดร่อง 1-7 มม. (CG2WA)

กาวยาแนวสุดยอดทนทานการขัดสี ป้องกันราดำ ขนาดร่อง 1-7 มม. ชั้นคุณภาพ CG2WA สำหรับงานห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่เปียกชื้น สัมผัสสิ่งสกปรกสะสม ที่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้งลักษณะการใช้งาน

สำหรับยาแนวกระเบื้องพื้นและผนังทุกชนิด ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่มีร่องยาแนว 1-7 มิลลิเมตร สามารถใช้บริเวณแห้ง เปียกชื้น ห้องน้ำ ห้องครัว

คุณลักษณะพิเศษ

มีสารไบโอไซด์ (Biocide) ป้องกันราดำ และการสะสมของเชื้อโรค

ทนยูวี สีไม่เปลี่ยน

ทนทานสารเคมีและกรดได้ดี

ไม่มีสารระเหยปลอดภัยต่อสุขภาพ (No VOCs)

เทคโนโลยี ไฮโดรโฟบิคช่วยลดคราบสกปรกฝังแน่น (hydrophobic)

ยึดเกาะได้ดีไม่หลุดร่อนด้วยสารโพลีเมอร์พิเศษ

เนื้อละเอียด เรียบเนียน ไม่แตกร้าว (Anti Crack)

มาตรฐาน ISO 13007-3 CG2WA, ISO 13007-4, EN13888-CG2WA, ANSI A118.6,ANSI A118.7วิธีการใช้งาน

อัตราส่วนผสม

กาวยาแนว 1 กิโลกรัม (1 ถุง ) ผสมน้ำประมาณ 0.34 ลิตร หรือกาวยาแนว 2.6 ส่วน ต่อน้ำสะอาด 1 ส่วน

การเตรียมพื้นผิว

ทำความสะอาดร่องกระเบื้องให้สะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำ และสิ่งแปลกปลอมในร่อง โดยสามารถเริ่มยาแนวได้หลังจากปูกระเบื้อง 24-48 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพหน้างาน

การผสม

เทกาวยาแนวลงในน้ำสะอาดตามสัดส่วนที่แนะนำ ปั่นผสม 2-3 นาทีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนเริ่มใช้ และควรใช้ให้หมดภายใน 45-60 นาที

การใช้งาน

ใช้เกรียงยางปาดและรีดให้กาวยาแนวลงไปในร่องกระเบื้องโดยปาดแนวเฉียงจนเต็มร่อง ปาดซ้ำอีกครั้งเพื่อนำกาวยาแนวส่วนเกินออกจากผิวกระเบื้อง

ปล่อยให้กาวยาแนวแห้งหมาด ใช้ฟองน้ำหมาด เช็ดคราบกาวยาแนวออก ทิ้งไว้ให้แห้ง 2 ชั่วโมง

ทำความสะอาด เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดอีกครั้ง

ควรใช้วัสดุปกคลุมเพื่อกันฝุ่น ปล่อยให้เข็ทตัวอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนเปิดใช้งาน

การเก็บรักษา

ผลิตภัณฑ์อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทยังไม่เปิดใช้งานมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ผลิต โดยเก็บไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก แห้ง ไม่ขึ้น

ข้อควรระวัง

ควรสวมถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อใช้งาน หากระคายเคืองให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาดทันที หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์

หากเข้าตาให้ล้างออกทันที ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง แล้วรีบพบ

ห้ามรับประทาน เก็บให้พ้นมือเด็ก

ไม่ควรใช้สำหรับพื้นที่ที่สัมผัสกรดรุนแรงตลอดเวลา

ข้อแนะนำ

ควรใช้งานตามคำแนะนำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

อุณหภูมิผสมและการใช้งาน ควรอยู่ระหว่าง 20-35 องศาเซลเซียส